ในปีค.ศ.1920 ญี่ปุ่นประสบกับปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำอย่างหนัก จนรัฐบาลเริ่มอ่อนแอ แนวคิดเรื่องการปกครองแบบเผด็จการ ของยุโรป เริ่ม ระบาดในหมู่ขุนทหารญี่ปุ่น และยังได้รับการสนับสนุนจากประชาชนที่อยู่ในสภาวะอับจนทางเศรษฐกิจด้วย กองทัพเริ่มแยกตัวเป็นอิสระจากการบังคับบัญชาของรัฐบาล
จนในปี ค.ศ.1931 กอง ทัพญี่ปุ่นก็เข้ายึดแมนจูเรียของจีน โดยที่รัฐบาลญี่ปุ่นไม่ทราบเรื่อง จึงเป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากองทัพไม่ยอมรับอำนาจของรัฐบาล จากนั้นอีก 4 ปี กองทัพญี่ปุ่นได้ก่อการรัฐประหารเพื่อล้มรัฐบาล แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ แต่เหล่าขุนพลเหล่านั้นกลับยิ่งมีอิทธิพลมากขึ้น
จนในปี ค.ศ. 1941 นาย พลฮิเดกิ โตโจ นายทหารคนสำคัญก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรี และนับตั้งแต่นั้นมาประเทศญี่ปุ่น ก็มีรูปแบบการบริหาร แบบฟาสซิสต์เหมือนในยุโรป
ช่วง เริ่มสงครามใหม่ๆ ญี่ปุ่นก็ท่าทางจะไปได้สวย บุกไปถล่มอ่าวไข่มุก (Pearl Harbour) ที่เกาะฮาวายของอเมริกา โดยที่อเมริกาทำอะไรไม่ได้เลย ในแถบเอเชียไม่ว่าจะไปบุกที่จีน เกาหลี ไม่ว่าที่ไหน ๆ ไม่มีใครต้านญี่ปุ่นได้ กองกำลังของญี่ปุ่นเข้มแข็งมาก
แต่...พอถึงช่วง ปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศเกาะหรือจะมาต้านประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกาได้ ญี่ปุ่นเริ่มอ่อนแอ เรือบรรทุกนํ้ามันที่นำนํ้ามันมาจากประเทศอินโดนีเซียก็โดนโจมตี เชื้อเพลิงไม่มีเรือที่ขนเสบียงก็โดนตี ...จมทะเลก่อนจะไปถึงจุดหมาย คนญี่ปุ่นที่ไปรบในแถบอาเซียนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จากการขาดเสบียงอาหารและยารักษาโรค
ในประเทศญี่ปุ่น เครื่องบินอเมริกาบินมาถล่มญี่ปุ่นทุกคืน เมืองใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นโตเกียว โอซาก้า นาโกย่า โดนถล่มแทบจะเป็นเมืองร้าง ทั้งทหารและพลเรือนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก แสนยานุภาพของเครื่องบินรบญี่ปุ่นช่วงหลังสงครามก็แทบจะทำอะไรเรือรบอเมริกา ไม่ได้เลย เมื่อสุนัขจนตรอก มันทำได้อย่างเดียวคือ วิ่งชนเพื่อเอาตัวรอด
หน่วยรบพิเศษ คามิกาเซะ ก็เกิดขึ้นมา แต่ก่อนที่จะชนเรือรบอเมริกาได้ ก็โดนยิงร่วงตกก่อนซะเป็นส่วนมาก เมืองโตเกียว และ เมืองทหารของญี่ปุ่นเกือบทุกแห่ง ตอนปลายสงคราม...อย่างที่บอกไปแทบจะเป็นเมืองร้าง
สภาพกรุงโตเกียวหลังการทิ้งระเบิด
แต่...ยังมีอยู่อีก เมืองหนึ่ง ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมทางการทหาร มีโรงงานมากมาย เด็กๆ ญี่ปุ่นตัวน้อยๆ จำนวนมากถูกเกณฑ์มาสร้างอาวุธนี่นั่น ... สงครามก็ทำมานานแล้ว แต่เมืองนี้แทบจะไม่ได้รับอิทธิพลจากสงครามเลย...ใช่แล้ว...เมืองใหญ่เมือง นี้คือ ฮิโรชิมา ตั้งแต่อ่าวไข่มุกของอเมริกาโดนญี่ปุ่นถล่มยับเยิน ก็มีโครงการเกิดขึ้นโครงการหนึ่ง...เป็นโครงการที่เร่งเครื่องไปข้างหน้า อย่างลับๆ โครงการนั้นคือ โครงการสร้างระเบิดนิวเคลียร์ การทดลองระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรกของโลก ประสบผลสำเร็จในกลางปี คศ. 1945 ก่อนที่อเมริกาจะนำไปทิ้งที่ ฮิโรชิมา เพียง 3 สัปดาห์เท่านั้น ทำไมอเมริกาต้องรีบเอาไปทิ้ง
เหตุผลที่ต้องรีบก็มีหลายอย่าง ต้องการยุติสงครามให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อลดการสูญเสียของอเมริกา ต้องการชนะญี่ปุ่นก่อนที่โซเวียต(รัสเซียปัจจุบัน) จะเข้าร่วมสงครามอย่างจริงจัง... เดี๋ยวต้องการทดสอบแสนยานุภาพของระเบิดชนิดใหม่
แล้วทำไมเลือกฮิโรชิมา ความจริงเมืองที่อเมริกาเลือกไว้เป็นเป้าหมายของระเบิดมีเกือบ 20 แห่ง แล้วก็ค่อยๆ ตัดออกไปจนเหลือ 2-3 เมือง หนึ่งในนั้นคือ ฮิโรชิมา เหตุผลที่อเมริกาเลือก ฮิโรชิมา ก็คือ ฮิโรชิมาเป็นเมืองทหาร มีกองทัพทหาร โรงงานผลิตอาวุธมากมาย แต่ยังไม่ได้รับความเสียหายจากสงคราม ฮิโรชิมาตั้งอยู่ในที่ราบ เหมาะสมที่จะทดสอบแสนยานุภาพของระเบิด แล้ว...
แบบจำลองเมืองฮิโรชิมา ก่อนโดนระเบิด
หลังโดนระเบิด
ฝ่ายสัมพันธมิตรได้ยื่นคำขาดให้ญี่ปุ่นยอมจำนน แต่ญี่ปุ่นไม่สนใจ และแล้ว...วันที่ 6 เดือนสิงหาคม คศ. 1945 เวลา 8:15 นาฬิกา ระเบิดนิวเคลียร์(ทดลอง)ที่มีชื่อว่า Little Boy ก็ได้นำไปทิ้งที่ เมืองฮิโรชิมา
เมือง ฮิโรชิมา เป็นเมืองที่มีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่นและแม้ว่าชาวญี่ปุ่นจะรู้ล่วงหน้าว่า สหรัฐฯ จะทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ แต่ก็หามีใครตะหนักถึงอนุภาพของมัน เมื่อเอนอลาเกย์ ถึงที่หมาย นักบินจึงปล่อยระเบิดนิวเคลียร์ และรีบออกจากที่หมายโดยเร็วที่สุด ระเบิดนิวเคลียร์เกิดปฎิกิริยาลูกโซ่ และระเบิดกลางอากาศขณะที่ลอยอยู่เหนือเมืองฮิโรฮิมา ที่ความสูง 600 เมตร
เกิดเป็นควันขาวอมเขียวพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นรูปดอกเห็ดสูงถึง 10 กิโลเมตร อันเป็นลักษณะเฉพาะของระเบิดนิวเคลียร์ และแสงสว่างอันเจิดจ้า พลังงานอันมหาศาลที่ถูกปลดปล่อยออกมาในรูปของแรงอัดอากาศ จากการระเบิด ความร้อนและกัมมันตภาพรังสี โดยที่ศูนย์กลางของการระเบิดนั้นมีอุณหภูมิมิสูงถึง 3800 องศาเซลเซียส
ผลของระเบิดนิวเคลียร์ทำให้เมืองฮิโรชิมา มีผู้เสียชีวิตทันทีจากการระเบิด ประมาณ 70,000 คน มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตภายหลังในปีเดียวกันอีกราว 70,000 คน และผู้ที่เสียชีวิตภายหลังนี้ต้องได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสก่อน เสียชีวิต จากแผลไฟลวก และผลจากกัมมันตภาพรังสี และประมาณอีก 60,000 คนเสียชีวิตในอีก 6 ปี ถัดมา ส่วนใหญ่เป็นผลจากกัมมันตภาพรังสี รวมแล้วมีผู้เสียชีวิตกว่า 200,000 คน
ภาพถ่ายทางอากาศของเมืองฮิโรชิมา เปรียบเทียบก่อน (ภาพซ้าย) และหลังเมืองถูกระเบิดทำลาย (ภาพขวา)
กากบาทกลางวงกลมคือจดกึ่งกลางการระเบิด มิสไซล์ปรมาณูจุดระเบิดเหนือตำแหน่งกากบาท 500 เมตร
กากบาทกลางวงกลมคือจดกึ่งกลางการระเบิด มิสไซล์ปรมาณูจุดระเบิดเหนือตำแหน่งกากบาท 500 เมตร
ประธานาธิบดี ทรูแมน แห่ง สหรัฐอเมริกา ก็ได้ยืนคำขาดอีกครั้งเพื่อให้ญี่ปุ่นยอมจำนนแต่โดยดี แต่รัฐบาลญี่ปุ่นเพิกเฉย ในที่สุด ทรูแมน จึงได้สั่งให้ทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ถล่มญี่ปุ่นเป็นลูกที่ 2 และระเบิดลูกนี้ มีชื่อว่า "แฟทแมน"
เพราะว่าขนาดอ้วนและใหญ่ โตกว่าลูกแรกเป้าหมายของระเบิดลูกที่ 2 นี้ ก็คือ เมืองนางาซากิ และแล้วในวันที่ 9 สิงหาคม ปี ค.ศ.1945 คืออีก 3 วันถัดมาโศกนาฎกรรมของมนุษยชาติ อีกฉากหนึ่งก็ได้อุบัติขึ้น เมืองนางาซากิ พินาศย่อยยับในพริบตาด้วยอำนาจของเจ้าคนอ้วน หรือ แฟทแมนในที่สุดรัฐบาลญี่ปุ่นก็ประกาศยอมจำนนอย่างไม่มีเงื่อนไขทั้งนี้เพื่อ รักษาชีวิตของประชาชนไว้ เพราะไม่แน่ว่าอาจจะมีระเบิดลูกที่ 3 ทำให้เมืองนางาซากินั้น มีชะตากรรมไม่แพ้กัน ผู้เสียชีวิตในทันที 70,000 คน บาดเจ็บอีกราว 80,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ผลของกัมมันตภาพรังสี ยังทำให้ผู้ที่ได้รับรังสีกลายเป็นมะเร็งในภายหลังได้อีกด้วย ในส่วนนี้ไม่สามารถประเมินได้แน่นอนว่ามีจำนวนเท่าใด ยังไม่รวมถึงความผิดปกติทางพันธุกรรม อันเป็นผลจากกัมมันตภาพรังสีที่ตกค้างอีกด้วย
http://www.unigang.com/Article/4310 บทความคัดลอก
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น